Last updated: 22 พ.ค. 2566 | 5455 จำนวนผู้เข้าชม |
การถือกำเนิดของวงออร์เคสตราวงแรก
-ในระยะแรกการใช้เครื่องดนตรีไม่มีการระบุแน่ชัดว่ามีการบรรเลงเป็นอย่างไร ต่อมาในสมัยยุคบาโรกราว ค.ศ.1600-1750 ได้มีการผสมวงออร์เคสตราเพื่อใช้ประกอบละครเพลงโอเปร่า เพื่อให้ดนตรีมีการบรรเลงให้สอดคล้องกับเสียงของนักร้อง
-ด้วยเหตุนี้จึงเริ่มมีการกำหนดเครื่องดนตรีลงในบทเพลงโดยเป็นลักษณะของวงเครื่องสายออร์เคสตรา (String Orchestra) มีผู้เล่นจำนวน 10-25 คน ในศตวรรษที่ 17 เริ่มมีการเพิ่มเครื่องลมไม้ และในตอนปลายยุคบาโรกผู้ประพันธ์เพลงเริ่มระบุจำนวนเครื่องดนตรีไว้ในบทเพลงโดยละเอียด แต่เนื่องจากเป็นยุคแรกของวงออร์เคสตรา จึงมีความไม่แน่นอน แต่จะมีลักษณะทั่วไปดังนี้ครับ
-ไวโอลินหนึ่ง (First Violin) อยู่ทางซ้ายมือ ของผู้อำนวยเพลง (Conductor) และให้ไวโอลินที่สอง (Second Violins) อยู่ทางขวามือ วิโอลา และเชลโลอยู่ตรงกลางส่วนดับเบิลเบสอยู่แถวหลังสุดของวง
-เครื่องเป่าลมไม้ (Woodwinds Instruments) โอโบ 3 เครื่อง, บาสซูน 1 เครื่อง และบางครั้งอาจมีฟลูต อยู่หลังกลุ่มไวโอลินที่หนึ่ง
- เครื่องเป่าทองเหลือง (Brass Instruments) ทรัมเป็ต 3 เครื่อง และบางครั้งอาจมีฮอร์น อยู่ด้านหลังขวา
-เครื่องประกอบจังหวะ (Percussion) กลองทิมปานี อยู่หลังสุดของวง
-อาจมี Harpsichord เล่นเป็นแนวเบส ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ประพันธ์เพลงนั่นเองครับ
หลังจากสิ้นสุดยุคบาโรก และเริ่มยุคคลาสสิกที่ ค.ศ. 1750-1820 วงออร์เคสตรามีการพัฒนารูปแบบจนได้มาตรฐาน ซึ่งมีเครื่องดนตรีแต่ละประเภทครบถ้วน ดังนี้ครับ
-กลุ่มเครื่องสาย (String Instruments) ไวโอลินที่หนึ่ง ไวโอลินที่สอง วิโอลา เชลโลและดับเบิลเบส ตามแต่นักประพันธ์เพลงต้องการ
- กลุ่มเครื่องเป่าลมไม้ (Woodwind Instruments) ฟลูต โอโบ คลาริเนตและบาสซูน
-กลุ่มเครื่องเป่าทองเหลือง (Brass Instruments) เฟรนช์ฮอร์น ทรัมเป็ต และทรอมโบนบางโอกาส
-กลุ่มเครื่องประกอบจังหวะ (Percussion) กลองทิมปานี และบางครั้งอาจมีเครื่องประกอบจังหวะอื่นประกอบในบางโอกาส
ซึ่งหลังจากยุคคลาสสิก วงออร์เคสตราก็ได้พัฒนาให้มีรูปแบบใหญ่ขึ้นในยุคโรแมนติก และในปัจจุบันก็มีการแบ่งแยกออกเป็น 2 ลักษณะ คือ ขนาดเล็กผู้บรรเลงไม่เกิน 60 คน และขนาดใหญ่ผู้บรรเลงประมาณ 80-100 คน นั่นเองครับ