Last updated: 22 พ.ค. 2566 | 16118 จำนวนผู้เข้าชม |
1. ต้นทุนในกระเป๋า
การเลือกซื้อของอะไรซักอย่างสิ่งที่สำคัญที่สุดคืองบประมาณหรือวงเงิน เพราะต่อให้กีตาร์จะมีคุณภาพที่ดีใช้ไม้ดีๆมาทำ ให้ซาวด์สุดยอดแค่ไหนถ้าไม่มีตังค์ซื้อก็จบ เพื่อนๆควรจะศึกษาเรื่องราคาหรือคำนวณงบประมาณค่าใช้จ่ายมาให้เรียบร้อย ข้อนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเป็นเรื่องแรกๆที่ต้องคิดเลย
2. เลือกรูปทรงให้เหมาะกับผู้เล่น
ปัจจุบันนั้นกีตาร์โปร่งออกมาหลายแบรนด์หลายทรง แน่นอนว่าแต่ละคนย่อมมีความชอบไม่เหมือนกันและรูปร่างไม่เท่ากัน บางคนอาจจะตัวเล็ก หรือบางคนมีรูปร่างใหญ่ และมีหลายๆคนที่เลือกใช้กีตาร์ตามแบบไอดอลตัวเองอาจต้องการ ดังนั้นถ้าได้เล่นกีตาร์ที่มีรูปทรงที่ชอบนั้นมีผลทางด้านจิตใจอย่างมาก ทำให้อยากเล่นกันได้ทั้งวัน
3. ทดลองเล่นเพื่อได้ซาวด์ที่ต้องการ
แน่นอนว่าคนซื้อกีตาร์ต้องอยากได้ยินเสียงของกีตาร์ ดังนั้นก่อนจะซื้อกีตาร์ทุกครั้งต้องทดลองเล่นจริงที่ร้าน นอกจากจะรับรู้เรื่องเสียงแล้ว จะได้เป็นการทดลองเรื่องทัชชิ่งว่าถนัดมือมั้ย คือเล็กหรือใหญ่ไปมั้ยอีกด้วย แต่การเล่นด้วยตัวเองจะได้ประสบการณ์ที่ดีกว่าและเป็นการเลือกกีต้าร์ไปในตัว
4. เลือกยี่ห้อที่โดนใจ
ข้อนี้จะคล้ายคลึงกับข้อสอง เพราะยี่ห้อกีตาร์แต่ละแบรนด์นั้นจะมีรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไป รวมถึงมีผลต่อการเล่นไม่น้อย ถ้าเป็นกีตkร์ที่ราคาสูง งานประกอบก็จะเนี๊ยบช่วยให้เล่นง่ายมากขึ้นไปอีก
5. ควรซื้ออุปกรณ์เสริมไปด้วย
หลายๆคนมักจะมาที่ร้านโดยมุ่งที่จะซื้อกีตาร์ตามงบเท่านั้น ขอแนะนำว่าควรจะเลือกซื้ออุปกรณ์เสริมติดมือไปด้วย เพราะถ้าเล่นกีตาร์ยังไงก็ต้องได้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ดูแลรักษากีตาร์ เช่น น้ำยาต่างๆ หรือเคสกีตาร์เพื่อป้องกันรอยกระแทกหรือฝุ่นละออง รวมไปถึงอุปกรณ์ที่จะช่วยให้การเล่นกีตาร์เป็นไปอย่างราบลื่นมากขึ้น เช่น Tuner หรือสายกีตาร์สำรอง ไปด้วย
6. ควรสอบถามความรู้เบื้องต้นจากผู้ขายเสมอ
หลายคนเวลาที่จะเลือกซื้อกีตาร์หรือจะถามรายละเอียดจากร้านกีตาร์มักจะมีอาการไม่กล้าถามโดยเฉพาะมือใหม่ ก็เข้าใจและเคยเป็นมาก่อนเนื่องจากเรายังไม่เก่ง แต่อยากให้เพื่อนๆรู้ไว้เลยว่า พนักงานร้านกีตาร์ทุกคนรวมถึง ต้องการที่จะช่วยเหลือดูแลอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าจะมาเลือกซื้อสินค้าไม่ว่าจะเป็นกีตาร์หรือเครื่องดนตรีอื่นๆก็ตามอย่าอายที่จะสอบถามคนขาย เพราะจะช่วยให้เพื่อนๆได้รับความรู้ซึ่งจะนำไปพัฒนาการเล่นหรือใช้งานกีตาร์ได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
7. ตรวจเช็คสินค้าให้เรียบร้อยก่อนออกจากร้าน
หลังจากเลือกกีตาร์ที่ต้องการ ควรเช็คความเรียบร้อยของกีตาร์ให้เรียบร้อยก่อนออกจาร้านเสมอ หากต้องการปรับแต่งกีตาร์เช่นปรับทัชชิ่งหรือเปลี่ยนสายกีตาร์สามารถทำได้เลยทันทีโดยการปรึกษาผู้ขาย หรือหากกีตาร์มีตำหนิที่ยังไม่พอใจก็สามารถเปลี่ยนได้ทันที ตรงนี้เป็นสิทธิ์ของผู้ซื้อที่ต้องตรวจสอบสินค้าก่อนเสมอ
8. ตรวจสอบการรับประกันสินค้าจางทางร้านเสมอ
หลังจากตรวจสอบสินค้าเรียบแล้ว อย่าลืมที่จะสอบถามการรับประกันจากทางร้านด้วย ว่ารับประกับกี่ปี ไม่ใช่แค่กีตาร์อย่างเดียว ทุกเครื่องดนตรีควรที่จะต้องถามเรื่องการรับประการหลักการขาย ทำให้เรามั่นใจในการซื้อมากขึ้น
13 พ.ย. 2564
26 ต.ค. 2564
13 พ.ย. 2564