Last updated: 22 พ.ค. 2566 | 3655 จำนวนผู้เข้าชม |
วิธีเลือกกีตาร์ไฟฟ้ายังไงให้ได้ระดับเซียน
การเลือกซื้อกีตาร์โปร่งสักตัวอาจให้ความสำคัญกับชนิดของไม้ที่ใช้ แต่การเลือกซื้อกีตาร์ไฟฟ้านั้นมีความซับซ้อนกว่าเพราะมีระบบไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้อง แล้วจะเลือกซื้อกีตาร์ไฟฟ้ายังไงให้โดนใจ วันนี้เราสรุปมาฝากกันครับ
รูปทรงของตัวและคอกีตาร์ / Body & Neck Shape
แม้มือใหม่หลายคนอาจจะชอบกีตาร์ไฟฟ้าที่มีลักษณะแปลกตา แต่เช่นเดียวกันกับกีตาร์โปร่ง คือควรเลือกรูปทรงที่จับถนัดมือจะดีที่สุดครับ ไม่ใช่แค่กับตัวกีตาร์แต่รวมถึงคอกีตาร์ด้วย เพราาะ คนมือใหญ่อาจจะชอบคอหนา มือเล็กอาจเหมาะกับคอบาง ๆ เพื่อที่จะเล่นได้สะดวก ทางที่ดีที่สุดคือต้องลองทดสอบกับตัวเองจะดีที่สุดครับ
สะพานสาย / Bridge
เป็นอีกหนึ่งส่วนที่มีผลต่อการเล่นและการรักษา ซึ่งจะมีทั้งหมด 3 ชนิด และแต่ละชนิดก็จะมีการทำงานและมีความยุ่งยากในการปรับแต่งแตกต่างกันออกไป ดังนี้ครับ
Fixed Bridge ใช้งานง่ายที่สุด เหมาะสำหรับมือใหม่ เพราะมีความยุ่งยากน้อยที่สุด อีกทั้งยังตั้งสายให้เที่ยงตรงได้ง่ายและมีความเพี้ยนของสายน้อยที่สุดในทั้ง 3 แบบ
Tremolo Bridge เพิ่มความ Advance ขึ้นมาอีกขั้น เพราะในสะพานสายชนิดนี้ มีระบบสปริงเข้ามา ทำให้มีเทคนิคในการเล่นเพิ่มขึ้น แต่สำหรับมือใหม่จริง ๆ แล้วอาจยังไม่จำเป็นขนาดนั้นครับ
Floyd Rose Bridge มีความซับซ้อนที่สุด เพราะมีการล็อคตรึงสายให้อยู่กับที่ แต่การใส่สายจะมีความยุ่งยาก อีกทั้งยังต้องตั้งสปริงทุกครั้งที่ต้องการตั้งสายใหม่ จึงอาจไม่เหมาะกับมือใหม่ที่สุดครับ
ส่วนรับเสียง / Pick Up
แต่ละชนิดจะมีเอกลักษณ์ของเสียงที่แตกต่างกันออกไป สามารถเลือกได้ตามเสียงที่ชอบได้เลย ซึ่งสามารถแบ่งได้ดังนี้ครับ
Single Coil ให้เสียงที่คม แหลม ใส คลีน
Humbucking ให้เสียงที่หนา อิ่ม ไม่แหลม
Mini Humbucking เสียงจะอยู่ตรงกลาง มีความหนาไม่เท่า Humbucking มีย่านแหลม แต่ก็ไม่บางแหลมแบบ Single Coil
ซึ่ง Pick Up แต่ละชนิดก็จะแบ่งออกเป็นอีก 2 ระบบ นั่นก็คือ
-แบบ Passive ไม่จำเป็นต้องใช้ถ่าน สามารถให้คาแรคเตอร์เสียงของไม้ที่เป็นธรรมชาติได้ชัดเจนกว่า
-แบบ Active ต้องใส่ถ่านให้ตัวรับเสียง จะเพิ่มความแรงของสัญญาณมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการไปเพิ่มย่านเสียงหรือเพิ่มความดัง จุดเด่นคือทำให้เสียงมีพลัง มีความพุ่ง ชัด แรง แต่อาจจะดูยุ่งยากนิดหน่อยสำหรับมือใหม่
ชนิดของไม้ / Type Of Wood
ถ้าหากเลือก Pick Up แบบ Passive อาจจะต้องให้ความสำคัญกับชนิดของไม้สักหน่อย เพราะไม้แต่ละชนิดจะให้โทนเสียงที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างไม้ที่นิยมนำมาทำกีตาร์ไฟฟ้า เช่น
Alder ราคาไม่สูงมาก ให้ลวดลายสวยงาม ให้เสียงคลีนหวานใส ตอบสนองย่าน ทุ้ม แหลมได้ดี
Maple มีลวดลายที่สวยงาม มีโทนเสียงที่แหลม สดใส เป็นประกาย
Rosewood ให้โทนเสียงที่กว้างทั้งความลึกในย่านเสียงต่ำและความใสในย่านเสียงสูง
Mahogany ให้เสียงโทนเสียง หนา อุ่น นุ่มนวล ให้ Sustain(หางเสียง) ค่อนข้างดี
เป็นยังไงกันบ้างครับกับวิธีเลือกซื้อกีตาร์ไฟฟ้ากับจุดที่ต้องดูเป็นพิเศษ สรุปแล้วการเลือกซื้อกีตาร์ไฟฟ้าไม่มีถูกไม่มีผิด เลือกตามที่เราชอบได้เลยครับ
แต่วันนี้เราขอแนะนำกีตาร์ไฟฟ้าคุณภาพดีเกินราคา จากแบรนด์ Jr.Junior By Clevan
Model L300 (Black/White)
String - 6
Body - Mahogany
Fingerboard - Rosewood
Scale - 22 Frets
Pickups - 2 Humbucker
Controls - 2 Volume + 2 Tone
Model L250 (CS/BS)
Body - Solid Mahogany, Flamed Maple On Top
Neck - Mahogany
Fingerboard - Rosewood
Scale - 22 frets
Pickups - 2 Humbucker W/Cover
Controls - 2 Volume + 2 Tone
26 ต.ค. 2564
13 พ.ย. 2564
13 พ.ย. 2564